จากกรณีที่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งล่าสุดมีทั้งหมด9รายที่ตกเป็นผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์5ราย ส่วนอีก4 รายเป็นเหยื่อของการถูกหลอกลวงออนไลน์ประเภทซื้อสินค้าไม่ตรงปก และหลอกลงทุน แต่มีเพียง1รายที่ไม่ตกเป็นผู้เสียหาย คือนักศึกษาหญิงที่ไม่ได้โอนเงินไปให้แต่กลับถูกหลอกปั่นหัวให้ตกอยู่ในความสับสนและถูกหลอกให้ถือมีดเข้าไปป่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นความผิดปกติและช่วยเหลือน้องนักศึกษาหญิงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไว้ได้ ไม่ให้ก่อเหตุรุนแรง
ทั้งนี้ตามรายงานแจ้งว่าล่าสุดนักศึกษาหญิงคนดังกล่าวยังคงอยู่ในอาการเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและทางญาติต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่ในส่วนรายของนักศึกษาชายคณะการสื่อสารมวลชนที่สูญเงินไปกว่า2 ล้านบาทนั้น ทางครอบครัวยังอยู่ในอาการเครียด และหาทางออกให้กับครอบครัวไม่ได้ เพราะนอกจากสูญเสียเงินทั้งหมดของครอบครัวแล้ว ยังต้องตกเป็นหนี้สินจากเงินที่ไปกู้ยืมมา ซึ่งเป็นปัญหาหนักหนาของครอบครัว เนื่องจากยังมีลูกๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงเรียนระดับมหาวิทยาลัยพร้อมกัน
3 คน และครอบครัวมีภาระในการส่งเสียเล่าเรียน
ทางด้านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้น ภายหลังจากที่รับทราบว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นกับนักศึกษา ได้มีการออกหนังสือด่วนย้ำเตือนไปยังทุกคณะ ให้แจ้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยเรื่องมิจฉาชีพออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมให้ความรู้ และจุดสังเกตข้อพิรุธของมิจฉาชีพที่จะใช้นักศึกษาเป็นเหยื่อในการเชื่อมโยงไปถึงครอบครัวเพื่อหลอกลวงโอนเงิน โดยหลังจากที่ทางมหาวิทยาลัยได้แจ้งไปยังคณะต่างๆ แล้ว ได้มีการใช้สื่อออนไลน์แพลตฟอร์มต่างๆ ที่เข้าถึงนักศึกษาในการแจ้งเตือนภัยเหล่านี้
ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายของวันนี้(5มิ.ย.68) ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดยผู้บริหารมหาวิทยาลัยและผู้กำกับการ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เตรียมร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ที่ห้องประชุมพระยาศรีวิสารวาจา ชั้น 1 สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในเวลา 13.30 น.