หน้าแรก
กรณีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายใช้อาวุธบุกเข้าโจมตีฐานทหาร สปป.ลาวหลายแห่งบนภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามดอยผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 3-4 พ.ค. 2568 จนมีลูกกระสุนปืนตกใส่หลังคาบ้านในเขต ต.ปอ อ.เวียงแก่น นั้น
ล่าสุดสภาแห่งชาติชุดที่ 9 ประจำเขตที่ 5 แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ออกประกาศสรุปสถานการณ์ว่า เวลา 04.40 น. วันที่ 3 พ.ค. 2025 ได้มีคนร้ายประมาณ 5-6 คน ลอบเข้าโจมตีป้อมทหาร ร้อย.ทด.125 ในเมืองปากทาด้วยปืน M79 จำนวน 1 ลูก จากนั้นใช้ปืนขนาด AK47 และ M16 รวมทั้งปืนลูกซองยิงถล่มจำนวน 30 นัด ทำให้มีปลอกกระสุนปืน AK47 ตกอยู่จำนวน 22 นัด เป็นกระสุนด้าน 2 นัด และปลอกกระสุนปืน M16 จำนวน 8 นัด กระสุนด้าน 4 นัด และด้ามปืน M16 จำนวน 2 อัน
วันเดียวกัน เวลา 04.50 น. กองกำลังไม่ทราบฝ่ายอีก 15-20 คน ได้ลอบโจมตีป้อมที่ 1 และป้อมที่ 2 ของกองร้อยเดียวกันโดยมีการขว้างระเบิดใส่ป้อมจำนวน 1 ลูก และยิงปืน AK47 เข้าใส่จำนวนหลายนัดก่อนที่จะพากันหลบหนีเข้าป่าไป จากนั้นเวลา 05.00 น.กองกำลังไม่ทราบฝ่ายประมาณ 5-6 คน ได้ลอบโจมตีป้อมสันหลวงของ ร้อย.ทด.125 โดยใช้วิธีขว้างระเบิดใส่จำนวน 1 ลูก ซึ่งกำลังพล ร้อย.ทด.125 ได้ยิงตอบโต้ประมาณ 30 นัด และถูกยิงตอบโต้กลับมา 3-4 นัด ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีเข้าป่าไปอีก
หลังเกิดเหตุ บก.ทหารแขวงบ่อแก้วได้มอบหมายให้ พ.อ.บุนจัน สีทะบูน หัวหน้าห้องเสนาธิการ บก.ทหารแขวงบ่อแก้ว, พ.ท.สุบิน สีหาลาด รองหัวหน้าห้องเสนาธิการฯ นำกำลังพลและแพทย์จำนวน 19 นาย เดินทางเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ แต่ปรากฏว่าได้ถูกคนร้ายซุ่มโจมตีที่บริเวณทางขึ้นป้อม 1 จึงได้ประสาน พ.ท.บุนทา สีสมบัด เป็นหัวหน้าการทหาร บก.ทหารเมืองปากทา นำกำลังอ้อมไปทางด้านหลัง แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึงบ้านห้วยแม้งได้ถูกคนร้ายซุ่มโจมตีจึงไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้
ต่อมาเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 4 พ.ค. กำลังพลที่ป้อม 3 สังเกตเห็นแสงไฟจากชายแดนติดประเทศไทยเคลื่อนเข้าไปยังฝั่งลาว จึงได้ตัดสินใจใช้ปืน AK47 ยิงเข้าใส่และไม่มีการตอบโต้กลับ อีก 2 ชั่วโมงต่อมากำลังพลภายในป้อม 2 ได้ใช้ระเบิดมือขว้างใส่จุดต้องสงสัย 3 จุดและไม่มีการตอบโต้กลับอีกเช่นเคย กระทั่งเวลา 07.30 น.วันเดียวกันกำลังพลที่ประจำอยู่บ้านเจียงตองได้รับแจ้งจากกองหลอนและชาวบ้านจองตองว่าพบเห็นกระเป๋าเป้จำนวน 1 ใบตกอยู่ในเขตหมู่บ้าน
เวลา 09.30 น. วันที่ 4 พ.ค. กำลังทหาร สปป.ลาว ได้เริ่มรุกกลับโดยเปิดฉากบุกโจมตีกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายที่อยู่บริเวณป้อม 1 จนถึงเวลา 13.30 น.จึงควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ และเข้าไปตรวจสอบจุดปะทะก็พบระเบิดแสวงเครื่องจำนวน 2 ลูกซึ่งยังไม่แตกปะทุ
สถานการณ์การปะทะทั้งหมดทำให้มีทหารลาวเสียชีวิต 3 นาย ได้แก่ พ.ท.บุนทา ซึ่งเป็นหัวหน้าการทหาร บก.ทหารเมืองปากทา, ร.อ.ทองวัน มะนีวัน ช่วยราชการแผนกสู้รบ, ร.ท.แก่นคำ พล.ร.3 และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ ร.ท.สุลิด ไชลือชา พัน.รพศ.16, พลทหารชั้น 1 สอนทะวี มิดบันเลือง จาก ร้อย.ทด.125 และพลทหารชั้น 1 บุนเลียน จาก ร้อย.ทด.125 ส่วนใหญ่ถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลในนครหลวงเวียงจันทน์
กระทั่งวันที่ 5 พ.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ป้องกันชาติ ป้องกันความสงบ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 คน ชื่อนายบิ ท่อ อายุ 32 ปี ชาวบ้านหัวบาน เมืองเชียงฮ่อน แขวงไซยะบุรี ได้ที่บ้านก้อนตื่นในเมืองปากทา และวันที่ 6 พ.ค. คณะประจำพรรคแขวงบ่อแก้วร่วมกับกำลังทหาร, ตำรวจ และฝ่ายปกครองเมืองปากทาและเมืองห้วยทรายได้ลงพื้นที่จุดล่อแหลม 6 หมู่บ้าน เพื่อชี้แจงประชาชนให้รับรู้ถึงสถานการณ์และยุทธวิธีของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อให้ประชาชนได้เข้าร่วมในการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์
ปัจจุบัน สปป.ลาวระบุว่าได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้หมดแล้วและอยู่ระหว่างสืบสวนหาตัวคนร้าย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ระบุว่ากองกำลังติดอาวุธดังกล่าวเป็นฝ่ายใดและลงมือโจมตีฐานทหารดังกล่าวด้วยเหตุผลใด
