แพทย์ไต้หวันเผย หาวไม่ใช่แค่ง่วง แต่เป็นสัญญาณเตือน 4 โรคร้ายแรง หากมีอาการอื่น ๆ ร่วม เตือนอุทาหรณ์คนหาว ล้มหมดสติจนดับสลด
กระแสไวรัลในโลกออนไลน์กำลังให้ความสนใจกับกรณีทางการแพทย์ที่เมืองเกาสง ไต้หวัน ชายวัย 55 ปี อดีตตำรวจ เกิดล้มหมดสติและเสียชีวิตกะทันหันหลังหาวที่ร้านสะดวกซื้อ เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตระหนักในสังคม
ดร.หวง เซียน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เตือนว่า แม้การหาวจะเป็นปฏิกิริยาทางร่างกายตามปกติ แต่หากเกิดบ่อยผิดปกติ และมีอาการร่วม เช่น เวียนศีรษะ เจ็บหน้าอก ใจสั่น หรือแขนขาอ่อนแรง ควรรีบระวัง เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง
แพทย์อธิบายว่า การหาวเป็นกลไกที่สมองใช้ปรับสมดุล เมื่อสมองต้องการลดอุณหภูมิ มีปัญหาการแลกเปลี่ยนออกซิเจน หรือสารสื่อประสาทอย่างโดพามีน เซโรโทนิน และอะเซทิลโคลีนทำงานผิดปกติ การหาวจึงเปรียบเสมือน “ปุ่มรีเซ็ต” ช่วยให้สมองกลับมาสมดุลชั่วคราว ดังนั้น การหาวไม่ใช่แค่แสดงถึง “ง่วง” หรือ “เบื่อ” แต่บางครั้งเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม
โรคที่อาจเกี่ยวข้องกับอาการหาวถี่ผิดปกติ แบ่งได้ 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
- โรคระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (โดยเฉพาะที่กระทบก้านสมอง), โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง, รวมถึงผู้ป่วยบางรายที่มีอาการลมชักหรือไมเกรน อาจแสดงอาการ “หาวติด ๆ กัน” เป็นสัญญาณเริ่มต้น
- โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือเจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจขาดเลือด ผู้ป่วยบางรายมีอาการหาวเพราะเส้นประสาทเวกัสถูกกระตุ้น โดยมีรายงานว่าผู้ป่วยโรคแยกชั้นหลอดเลือดใหญ่ (Aortic dissection) ก็มีอาการหาวก่อนเกิดเหตุ
- โรคตับและเมตาบอลิซึม เช่น ผู้ป่วยตับอักเสบหรือตับแข็ง มักอ่อนเพลียและหาวบ่อย ขณะที่ผู้ป่วยเบาหวานในภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ สมองขาดพลังงาน ก็อาจมีอาการหาวถี่
- ผลข้างเคียงจากยาและโรคทางจิตเวช เช่น ยาต้านซึมเศร้าบางชนิด (fluoxetine, sertraline) อาจทำให้ผู้ป่วยหาวต่อเนื่อง หรือผู้ที่มีภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้า จากความผิดปกติของระบบสารสื่อประสาท ก็อาจมีอาการคล้ายกัน
แพทย์ย้ำว่า โดยทั่วไปการหาวถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีอาการร่วมผิดปกติ เช่น เวียนศีรษะ เจ็บหน้าอก ใจสั่น หรือแขนขาอ่อนแรง ต้องไม่ละเลย เพราะอาจเกี่ยวข้องกับโรคสมอง หัวใจ เมตาบอลิซึม หรือแม้แต่โรคทางจิตเวช ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว ก่อนจะพลาดช่วงเวลาทองของการรักษา
– Website : https://www.khaosod.co.th