ชาวดอยสะเก็ดเปลี่ยนป่าเป็นขุมทรัพย์: สร้างฟาร์มเห็ดธรรมชาติ แก้ปัญหาเผาป่า

เชียงใหม่ – ณ ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเอกชนและชาวบ้านได้ผนึกกำลังกันพลิกโฉมป่าชุมชนให้กลายเป็น “ขุมทรัพย์” แห่งใหม่ ด้วยการเติมเชื้อเห็ดป่าลงในพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ เพื่อสร้าง “ฟาร์มเห็ดธรรมชาติ” ที่สามารถเก็บกินและเก็บขายได้ตลอดทั้งปี ควบคู่ไปกับการหว่านอีเอ็มบอลเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าที่เสื่อมโทรมให้กลับมาอุดมสมบูรณ์และเป็นป่าอินทรีย์ หวังเป็นต้นแบบ “ภูเขาจุลินทรีย์” แห่งแรกของประเทศ และช่วยแก้ปัญหาการเผาป่าเพื่อหาเห็ด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของวิกฤตฝุ่น PM2.5 ที่เชียงใหม่เผชิญมาตลอดหลายปี

โครงการ “คืนสมดุลให้ป่าชุมชนด้วยจุลินทรีย์” เป็นความร่วมมือของเครือข่ายอนุรักษ์ป่าชุมชนตำบลป่าป้อง โดยได้รับการสนับสนุนจาก สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ, มูลนิธิเห็ดไมคอร์ไรซ่าเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ จังหวัดแพร่ รวมถึงภาคเอกชนอย่างกลุ่มบริษัท กัลฟ์ และ บริษัท เชียงใหม่เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี ชาวบ้านทุ่งยาว ตำบลป่าป้อง ได้นำกล้าไม้ยางนาและไม้ยืนต้นที่เติมเชื้อจุลินทรีย์เห็ดป่า 16 ชนิดที่เป็นมิตรกับต้นไม้ไปปลูก เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ โดยคาดว่าภายในหนึ่งปีข้างหน้า เชื้อเห็ดจะกระจายตัวและให้ผลผลิตเห็ดป่าหลากหลายชนิด เช่น เห็ดตับเต่า เห็ดระโงก เห็ดฟาง และเห็ดเผาะ ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งอาหารและสร้างรายได้ให้ชุมชน

ดร.สุจิตรา โกศล ประธานมูลนิธิเห็ดไมคอร์ไรซ่าฯ ได้อธิบายถึงหลักการของ “ไมคอร์ไรซา” ซึ่งคือเห็ดป่าหลายชนิดที่มีความสัมพันธ์แบบพึ่งพากับต้นไม้ โดยเห็ดจะช่วยย่อยสารอาหาร (โดยเฉพาะฟอสเฟต) ให้ต้นไม้ ขณะที่ต้นไม้ก็ให้ธาตุอาหารแก่เห็ด ทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดีกว่าปกติถึง 1.2-2 เท่า การใส่เชื้อเห็ดทำได้โดยใช้สปอร์และเส้นใยจากดอกเห็ดสดนำมาผ่านกระบวนการเลี้ยงเชื้อ แล้วนำไปหยอดหรือผสมในดินปลูกกล้าไม้ หรือปั้นเป็นอีเอ็มบอล องค์ความรู้นี้ถูกถ่ายทอดจากความสำเร็จที่หมู่บ้านหนองสุวรรณ จังหวัดแพร่ มายังชาวบ้านตำบลป่าป้อง เพื่อนำไปสู่การเปิดศูนย์การเรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์ต่อไป ดร.สุจิตรา ยังได้ย้ำว่าความเชื่อที่ว่าการเผาป่าทำให้เห็ดออกนั้นไม่จริง เพราะไฟป่าที่มีอุณหภูมิสูงเกือบ 1,000 องศาเซลเซียส จะทำลายสปอร์เห็ดบนผิวดินจนหมดสิ้น ปัจจัยที่ทำให้เห็ดออกคือความชื้นจากฝนและแสงแดด รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่า

นายสมพงศ์ เจริญศิริ กำนันตำบลป่าป้อง กล่าวว่า ป่าผืนนี้เป็นแหล่งหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวดอยสะเก็ด และชาวบ้านหวังว่าภายในหนึ่งปีข้างหน้า เชื้อเห็ดจะเติบโตออกดอกผลให้เก็บกินเก็บขายได้ตลอดทั้งปี รวมถึงผลผลิตจากป่าอื่น ๆ เช่น ต้นผักหวาน และไข่มดแดง โดยที่ป่ายังคงความสมบูรณ์ ด้าน นายจิรศักดิ์ มีสัตย์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ บริษัท GULF CMWTE เสริมว่า การเพาะเห็ดป่าโดยไม่มีการเผาป่านี้ เป็นความหวังของชาวบ้านในการลดปัญหาฝุ่น PM2.5 นอกจากจะสร้างรายได้แล้ว ยังนำไปสู่การเพาะกล้าไม้จากผืนป่าที่สมบูรณ์ เป็นการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน และจะเป็นต้นแบบ “ภูเขาจุลินทรีย์” แห่งแรกของประเทศ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า