หน้าแรก
16 มิ.ย. 2568 – นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ เพื่อติดตามและกำชับการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานใช้บทเรียนจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2567 เป็นแนวทางสำคัญ และประกาศชัดว่า “ต้องไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม” พร้อมเร่งรัดการขุดลอกลำน้ำสำคัญ อาทิ แม่น้ำปิง ให้แล้วเสร็จก่อนกำหนดเพื่อรับมือฤดูฝนปีนี้
ที่ห้องประชุมน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 นายประเสริฐได้เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานชลประทาน และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง ตลอดจนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด
ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งสามได้รายงานความพร้อมในการรับมืออุทกภัย โดยนำบทเรียนจากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2567 มาใช้เป็นแนวทางหลักในการเตรียมการ โดยเฉพาะการเน้นการขุดลอกลำน้ำสำคัญอย่างแม่น้ำปิง แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำกก ซึ่งผู้แทนจากหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาได้รายงานความคืบหน้าว่า คาดว่าจะสามารถเร่งดำเนินการขุดลอกให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2568 นี้
รองนายกฯ มอบนโยบายรับมืออุทกภัย หลังจากรับฟังรายงาน รองนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายและข้อสั่งการสำคัญ เพื่อให้การรับมือสถานการณ์อุทกภัยในปีนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด: นายประเสริฐกำชับให้ทั้ง 3 จังหวัดเตรียมความพร้อมในทุกด้านสำหรับการรับมือฤดูฝนปี 2568 โดยบูรณาการมาตรการรับมือฝนร่วมกับแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม รวมถึงแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และลดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด “เข้าใจว่าแผนมีอยู่แล้ว ทั้งแผนของ ปภ. แผนของ สทนช. ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าใจว่าทราบดีแล้วทุกหน่วยงาน พร้อมปฏิบัติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานชลประทาน หรือหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็ขอให้บูรณาการปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ให้มีประสิทธิภาพ” นายประเสริฐกล่าวเน้นย้ำ
รองนายกฯ ยังสั่งการให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา, ชลประทาน และกรมการทหารช่าง เร่งดำเนินการขุดลอกแม่น้ำกก, แม่น้ำรวก, แม่น้ำปิง รวมถึงการก่อสร้างพนังกั้นน้ำชั่วคราวของแม่น้ำสาย โดยเน้นย้ำให้แล้วเสร็จก่อนกำหนด “เพราะอุทกภัยปีที่แล้วมาในช่วงเดือนกันยายนต่อเดือนตุลาคม” หากการขุดลอกไม่แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ ก็ขอให้ทุกจังหวัดเตรียมเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมรองรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการข้อมูลเพื่อประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องผ่านระบบเตือนภัยและช่องทางการสื่อสารของราชการ “ฝากไว้ว่าการรับมือสถานการณ์อุทกภัยปีนี้ขอให้มีความสมบูรณ์ เพราะปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีที่แล้วได้เห็นมาแล้ว ประสบมาแล้ว ปีนี้มีการนำเงินงบประมาณมาแก้ไข” นายประเสริฐกล่าว พร้อมย้ำถึงเป้าหมายสูงสุดที่ว่า “โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไม่มีผู้เสียชีวิตจากปัญหาอุทกภัย หรือเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง”
นายประเสริฐยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในแต่ละจังหวัด โดยเชียงใหม่กำลังดำเนินการแก้ไขด้วยงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร ส่วนเชียงรายมีสองเรื่องหลักคือ คุณภาพน้ำและดินโคลนถล่มที่แม่สาย ซึ่งได้ดำเนินการไปมากแล้ว ขณะที่ลำพูนได้รับผลกระทบจากน้ำทางตอนเหนือที่ไหลมารวมกัน นอกจากนี้ ยังได้ฝากถึง สทนช. และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้เร่งพิจารณาอนุมัติโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเพื่อการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนได้รวดเร็ว ก็จะเป็นประโยชน์ต่อพื้นที่ประสบภัยอย่างยิ่ง
