หน้าแรก
ตำรวจเชียงใหม่ทลายแหล่งมั่วสุม จับกุมวัยรุ่นลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอหลากหลายรสชาติให้กับเยาวชน พบขายกันโจ๋งครึ่ม ห่างจากสถานศึกษาไม่ถึง 1 กิโลเมตร พร้อมยึดของกลางจำนวนมาก เตรียมขยายผลสาวถึงผู้เกี่ยวข้อง
ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.ทักษิณ จันทะวงค์ รอง ผบก.สส.ภ.5 ได้ปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำกระท่อมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหารายแรกคือ นายชัย (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี และนางสาวพร (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ได้ที่บริเวณหน้าร้านข้าวมันไก่แห่งหนึ่งบนถนนสายเชียงใหม่-สันกำแพง พร้อมของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์จำนวนมาก อาทิ บุหรี่ไฟฟ้า 24 อัน, หัวพอต 30 อัน, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเติม 156 อัน, เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง 27 อัน, เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเติมน้ำยา 10 อัน, หัวเติมน้ำยา 9 กล่อง, หัวพอตใช้แล้วทิ้ง 63 อัน, หัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า 27 กล่อง, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ 1 คัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ซื้อ รับไว้ โดยประการใด ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามฯ และให้บริการขายสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าหรือด้วยน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอันเป็นความผิดฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ”
จากการสอบสวนขยายผล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเดียวกันได้เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งบนถนนหมื่นด้ามพร้าคต ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ และจับกุม นายลักษณ์ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี พร้อมของกลางเป็นยาแก้ไอ 16 ขวด, ยาแก้แพ้ยี่ห้อต่างๆ รวม 144 ขวด, ยาแก้ปวด 126 แผง (แผงละ 10 เม็ด) และน้ำกระท่อม 5 ขวด โดยนายลักษณ์ถูกแจ้งข้อกล่าวหา “ผลิต หรือขาย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, ผลิต หรือขาย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับที่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดฯ, มีวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 (ยาแก้ไอ/แก้แพ้) ไว้ในความครอบครองเกินที่กฎหมายกำหนดโดยผิดกฎหมาย”
พ.ต.อ.ทักษิณ จันทะวงค์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองรายแรก พบว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเยาวชนผ่านช่องทางออนไลน์ (ไลน์) และจากการขยายผลยังพบว่ามีการจำหน่ายน้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอหลากหลายรสชาติตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนในพื้นที่ และน่าตกใจที่แหล่งจำหน่ายดังกล่าวอยู่ห่างจากสถานศึกษาเพียง 600 เมตรเท่านั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 กำลังเร่งดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
