กล้องวงจรปิดจับภาพรถของนายฤชากร ใจสันติ หรือรองฯ แบงค์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม ต.ในเมือง อ.เมืองลำพูน ที่ได้หายตัวไปอย่างปริศนาตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาจนถึงเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) ซึ่งทางญาติได้มีการแจ้งความคนหายเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดหลายจุดในเขตพื้นที่ อ.เมืองลำพูน เบื้องต้นได้สรุป Time line เริ่มจาก 16 มิ.ย. ออกจากบ้านสันทรายไปโรงเรียน วันที่ 16 มิ.ย. เวลา 08.49 น. cctv จับภาพรถได้บนถนนซูเปอร์ไฮเวย์มุ่งหน้าลำพูน เวลา 10.02 น. cctv จับภาพรถได้ที่ ต.ไชยสถาน อ.สารภี ขาเข้าเชียงใหม่
เวลา 12.11 น.วันเดียวกัน (16 มิ.ย.) กล้องวงจรปิดของปั๊มน้ำมัน ปตท.ได้จับภาพรถเก๋งสีบรอนซ์เทา ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กข 6610 ลำพูน ของนายฤชากร ที่ได้แวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท.เขต ต.หนองหนาม อ.เมืองลำพูน แต่เย็นวันนั้นรองฯ แบงค์ไม่กลับบ้าน ญาติจึงโทร.ตามหา รุ่งขึ้น (17 มิ.ย. 67) ได้มีการแจ้งความคนหาย ซึ่งขณะนั้นยังโทร.ติดแต่ไม่มีคนรับสาย
กระทั่งวันที่ 17 มิถุนายน 2567 เวลา 08.08 น. พิกัดสุดท้ายก่อนสัญญาณโทรศัพท์จะหายไป สามารถจับสัญญาณได้ที่บริเวณถนนลำพูน-เชียงใหม่ สายใน พื้นที่หมู่ 2 ต.อุโมงค์ อ.เมืองลำพูน รอยต่อกับ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ cctv ไม่สามารถจับภาพได้อีกเลย
ส่วนกรณีมีผู้แจ้งว่าพบเห็นบริเวณหลังจักรคำคณาทร โซนกู่ช้าง กู่ม้า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วแต่ไม่พบ หลังจากนั้นไม่ทราบว่าไปทิศทางไหน ทางญาติได้ประกาศตามหาในโซเชียลฯ แจ้งว่าใครมีกล้องหน้ารถหรือผ่านจุดนั้นในช่วงเวลาดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือญาติ
เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามนายเฉลิม ใจสันติ บิดาของนายฤชากร ที่หายตัวไป ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ปกติลูกชายเป็นคนดี เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ เป็นคนใจดี มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน ชอบทำบุญ ตนคิดว่าการหายตัวไปของลูกชายคาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียดจากปัญหาสะสมในที่ทำงาน
“เท่าที่ทราบเบื้องต้นปัญหาน่าจะเกิดจากเมื่อหลายเดือนก่อนได้ย้ายจากโรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อมไปทำงานในตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดจามเทวี เขตเทศบาลเมืองลำพูน ชั่วคราว ได้เกิดปัญหาเจ้าหน้าที่การเงินคนหนึ่งนำเอกสารการเบิกเงินงบประมาณของโรงเรียนเทศบาลวัดจามเทวี มาให้เซ็นเพื่อเบิกเงินจำนวนกว่า 1 แสนบาทเศษ แต่หลังจากเบิกเงินไปแล้วเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้เชิดเงินจำนวนแสนกว่าบาทหลบหนีไป เคยเล่าให้คนใกล้ชิดฟังโดยกลัวจะต้องถูกดำเนินคดีและหวั่นใจถูกให้ออกจากราชการ ทำให้เกิดความเครียดสะสม”
ส่วนตนในฐานะคนเป็นพ่อคิดว่าเงินจำนวนนี้ยังพอมีทางออกที่จะแก้ปัญหาได้ และคิดว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่ หากทราบข่าวก็ขอให้กลับมาแก้ปัญหา ส่วนลูกชายจะไปไหนนั้นยังไม่ทราบ แต่คาดว่าน่าจะหลบไปปฏิบัติธรรมที่ไหนสักแห่ง เพราะลูกชายเป็นคนชอบทำบุญ ชอบปฏิบัติธรรม