มอบเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ในพื้นที่ภัยแล้งเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกรพื้นที่ ต.สันติสุข

เปิดเปิดโครงการบริหารจัดการดินและน้ำทั้งบนดินและใต้ดินในพื้นที่ภัยแล้งเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกรพื้นที่ พร้อมมอบเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ หรือระบบการกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องสูบน้ำล้อเลื่อนเพื่อการเกษตร และมอบสระน้ำขนาดความจุ 1,375 ลบ.ม และปัจจัยการผลิตทางการเกษตร เช่นน้ำหมัก ปุ๋ยเป็นต้น ภายใต้โครงการบริหารจัดการดินและน้ำทั้งบนดินและใต้ดินในพื้นที่ภัยแล้งเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกรพื้นที่ ต.สันติสุข

เมื่อเช้าวันที่ 20 กันยายน 2567 ที่เทศบาลตำบลสันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ นายนเรศ ธำรงทิพยคุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ (ส.ส.) เขต 9 เป็นประธานเปิดโครงการบริหารจัดการดินและน้ำทั้งบนดินและใต้ดินในพื้นที่ภัยแล้งเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกรพื้นที่ ต.สันติสุข ปีงบประมาณ 2567 มีประชาชนและเกษตรกร กว่า 200 คนร่วมงาน และร่วมประชุมฟังการชี้แจงและรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามโครงการ โดยได้ส่งมอบเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ หรือระบบการกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องสูบน้ำล้อเลื่อนเพื่อการเกษตร และมอบสระน้ำขนาดความจุ 1,375 ลบ.ม และปัจจัยการผลิตทางการเกษตร เช่นน้ำหมัก ปุ๋ยเป็นต้น ภายใต้โครงการบริหารจัดการดินและน้ำทั้งบนดินและใต้ดินในพื้นที่ภัยแล้งเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกรพื้นที่ ต.สันติสุข

ว่าที่ร้อยตรีเอกบรรพต วิหคเหิร นายกเทศมนตรีตำบลสันติสุข กล่าวต้อนรับแขกที่มาร่วมประชุม และนายมานิตย์ ไหวไว นายอำเภอดอยหล่อ เดินทางมาร่วมในพิธี จากนั้นนายนิลภัทร คงพ่วง ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินเชียงใหม่ กล่าวรายงานว่า การบรรเทาผลกระทบจากพื้นที่ทำการเกษตรที่มีโอกาสเสี่ยงภัยแล้ง ประกอบกับ นโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้มีการขยายผลโครงการสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกร หรือชุมชนที่ต้องการใช้น้ำเพื่อการเพาะปลูก สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ทำการเกษตร ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่เกษตรกร และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น

สถานีพัฒนาที่ดินเชียงใหม่ ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้ดำเนินการโครงการบริหารจัดการดินและน้ำทั้งบนดินและใต้ดินในพื้นพื้นที่ภัยแล้งเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกร ในพื้นที่ ต.สันติสุข โดยมีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการดินและน้ำทั้งบนดินและใต้ดิน ด้วยมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสม และ 2.เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้ง ซึ่งโครงการฯนี้ ประกอบด้วย 1.งานก่อสร้างมาตรการบริหารจัดการน้ำใต้ดินได้แก่ การขุดสระเก็บน้ำขนาดความจุ 1,375 ลบ.ม. ลึก 7 ม. จำนวน 30 แห่ง และ 2.งานจัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ จำนวน 1,000 ไร่ได้แก่ งานจ้างเหมาก่อสร้าง จัดทำบ่อดักตะกอน จำนวน 2 แห่ง ถังเก็บน้ำ คสล. จำนวน 1 แห่ง ทางลำเลียงในไร่นา จำนวน 2.33 กิโลเมตร

ในการดำเนินการในครั้งนี้สถานีพัฒนาที่ดินเชียงใหม่ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเทศบาลสันติสุข ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นทุกท่าน จึงมีผลทำให้พื้นที่เกษตรกรรมที่เสี่ยงภัยแล้งของตำบลสันติสุขได้รับการอนุรักษ์ดินและน้ำด้วยการบริหารจัดการดินและน้ำทั้งบนดินและใต้ดิน จำนวน 1,000 ไร่ การบริหารจัดการน้ำใต้ดิน 30 แห่งนี้ได้เวลาตามเวลากำหนดการดังกล่าว ผู้อำนวยการพัฒนาที่ดินเชียงใหม่ กล่าว

นายนเรศ ธำรงทิพยคุณ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 9 กล่าวว่า โครงการบริหารจัดการดินและน้ำทั้งบนดินและใต้ดินในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกร พื้นที่ ต.สันติสุขครั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์น้ำและสถานการณ์เอลนีโญ่ในช่วงฤดูแล้งปี 2566-2567 ปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ต่อการเกษตรกรรม “ดังนั้นจึงมีความสำคัญในการกำหนดให้มีมาตรการลดผลกระทบให้เกษตรกรมีน้ำไว้ใช้ หรือเก็บความชุ่มชื้นไว้ในดินในช่วงวิกฤตการณ์ภัยแล้ง เพื่อสร้างการปรับตัวของภาคเกษตรกรรมที่มีควานอ่อนไหวต่อสภาพดิน ฟ้า อากาศ และปัญหาสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง (Climate Change)“

“โครงการนี้ที่ประกอบด้วยงานจัดทำโครงสร้างพื้นฐานด้านการบริหารจัดการดินและน้ำทั้งบนดินและใต้ดิน ได้แก่ การขุดสระเก็บน้ำขนาดความจุ 1,375 ลบ.ม. ลึก 7 เมตร จำนวน 30 แห่ง การจัดระบบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ซึ่งเป็นการชะลอความเร็วของน้ำ การกักเก็บตะกอน การป้องกันการสูญเสียหน้าดิน รักษาความชื้นในดินรวมทั้งเป็นการเก็บกักน้ำฝน ทำให้เกิดความชื้นที่พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ในพื้นที่ จำนวน 1,000 ไร่ ระบบกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ของโครงการฯ อีกจำนวน 30 ชุด ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร และการส่งเสริมปรับปรุงคุณภาพดินนั้นจะสามารถช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากภัยแล้ง ดินเกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงกายภาพ มีการใช้ประโยชน์จากน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินเพื่อการเกษตร และทำให้เกษตรกรในพื้นพื้นที่ ต.สันติสุข สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภภาพต่อไป“ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 9 กล่าว

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า