สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด.เตรียมมอบรางวัลให้บุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยม ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปี 2567 “พล.อ.นฤทธิ์” ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ 35 หรือ นบ.ยส.35 ติดโผด้วย
วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเตรียมมอบรางวัลให้บุคคลและองค์กร ที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่น ในการป้องกันและแก้ไขยาเสพติด ประจำปี 2567 ทั่วประเทศ จำนวน 115 คน 32 องค์กร โดยเฉพาะ ด้านบริหารจัดการ ด้านการปราบปรามยาเสพติด ด้านการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด ด้านการบำบัดรักษา ด้านการป้องกันยาเสพติด และด้านความร่วมมือ ระหว่างประเทศ โดยในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานป้องกันและปราบรามยาเสพติดภาค 5 มีบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยม ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปี 2567 จำนวน 6 ราย (บุคคล 5 ราย องค์กร 1 ราย) ในจำนวนบุคคลและองค์กรดังกล่าว พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ 35 หรือ นบ.ยส.35 ได้รับรางวัลบุคคลที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่น ในการป้องกันและแก้ไขยาเสพติด ประจำปี 2567 ที่ตึกสันติไมตรี ในวันที่ 3 กรกฎาคม นี้ด้วย
สำหรับ พลเอกนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบกเป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 24 นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 35 เหล่าทหารม้า เป็นผู้บังคับหน่วยในเหล่าทหารม้าในทุกตำแหน่งตั้งแต่ผู้บังคับหมวด, ผู้บังคับกองร้อย, ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 18, ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 3, และผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 ที่ภาคภูมิใจคือ ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่ง ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 138 (หนึ่ง – สาม – แปด) หน่วยเฉพาะกิจกรมททารม้าที่ 3 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนของอำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นผู้บังคับกรมทหารม้าเฉพาะกิจ ฝึกและตรวจสอบ กองทัพบก และในห้วงที่เป็นผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 ทำหน้าที่ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง รับผิดชอบพื้นที่ชายแดน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, อุตรดิตถ์ และจังหวัดพิษณุโลก จากนั้นเมื่อไปดำรงตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 3 ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ หรือ นบ.ยส.35 (สาม – ห้า) จากรัฐบาลในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถขับเคลื่อนงานด้านการสกัดกั้นและตรวจยึดยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือได้เป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของ พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ 35 ที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยประชาชนแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่เป็นปัญหาสำคัญของชาติ สำหรับแนวทางการทำงาน ที่พล.อ.นฤทธิ์ ได้ยึดถือมาตลอดตั้งแต่รับราชการคือการทำงานที่เน้นสร้างบรรยากาศให้น่าทำงาน เพื่อให้ผู้ร่วมงานมีความสุข
ในปัจจุบันหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ 35 รับผิดชอบการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ 18 อำเภอ ของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ภายหลังจากรัฐบาลมีนโยบายที่จะเร่งแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในทุกพื้นที่ชายแดนของประเทศ ให้เห็นผล และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงเพิ่มพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือจาก 11 อำเภอ เป็น 18 อำเภอ โดยเพิ่มอีก 7 อำเภอ เพื่อให้ครอบคลุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ได้แก่ อำเภอปาย และปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน, อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย, อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา, อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน และ อำเภอแม่สอด, อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 66 – 30 มิ.ย.67 หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ 35 มีผลการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ 18 อำเภอ ของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย สามารถตรวจยึด ยาบ้ารวม 182,593,220 เม็ด, จับกุมผู้ต้องหา 1,562 ราย จากสถิติการจับกุมยาเสพติดเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาในห้วงเดียวกัน ( ธ.ค. 65 – มิ.ย.66 ยึดยาบ้าได้ 72,395,380 เม็ด) พบว่า ในปีนี้สามารถยึดยาบ้า เพิ่มขึ้น 110,233,840 เม็ด คิดเป็นร้อยละ 152.34