จนท.ระดมกำลังภาคพื้นพร้อมเฮลิคอปเตอร์เร่งดับไฟไหม้ป่าเชิงดอยสุเทพหลังห้วยตึงเฒ่า-คาดมือมืดลักลอบเผา

เชียงใหม่ – เกิดไฟไหม้ป่าเชิงดอยสุเทพด้านหลังห้วยตึงเฒ่า พื้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จนท.ต้องระดมกำลังเดินเท้าเข้าดับภาคพื้นดิน พร้อมขอเฮลิคอปเตอร์สนับสนุนขึ้นบินโปรยน้ำ โดยล่าสุดยังต้องเร่งควบคุมสถานการณ์ ขณะที่ก่อนหน้านี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เพิ่งสั่งงดบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าทั้งหมด และหากพบลักลอบเผาต้องดับให้ได้ภายในวันเดียว รวมทั้งตั้งรางวัลนำจับมือเผาคดีละ 10,000 บาท

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า เมื่อวานนี้ (10 มี.ค. 67) ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุเกิดไฟไหม้ป่าบริเวณเชิงดอยสุเทพ ทางด้านทิศเหนือของอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ในพื้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยหลังรับแจ้งเหตุแล้วทางนายสมนึก ท้าวพา ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ ได้สั่งสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าภูพิงคฯ, อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย, ทหารพราน และอาสาสมัครดับไฟ เข้าปฏิบัติการดับไฟป่าในจุดดังกล่าว พร้อมทั้งประสานขอเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมทำการบินตักน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าขึ้นโปรยน้ำดับไฟด้วย อย่างไรก็ตามกระทั่งถึงช่วงเย็นแล้วแม้จะยังไม่สามารถดับไฟได้ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าน่าจะเป็นการลักลอบเผา

ขณะเดียวกันรายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (10 มี.ค. 67) ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชุมติดตามสถานการณ์และการแก้ปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละออง และไฟป่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ Conference จากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อมอบนโยบายแก่หน่วยงานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้รายงานสถานการณ์ไฟป่า และ PM 2.5 ในพื้นที่ว่าช่วงนี้มีลมจากตะวันตกพัดพาฝุ่นจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ 5 อำเภอที่ติดแนวชายแดน คือ อำเภอแม่อาย ฝาง เชียงดาว ไชยปราการ และเวียงแหง มีค่าฝุ่นสูงในทุกๆ วัน และจะเบาบางลงในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นลักษณะนี้มาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ขณะที่การเผาก็ยังสามารถควบคุมได้ และได้มีการงดเว้นการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าทั้งหมดในห้วงนี้ และปิดป่าอนุรักษ์ 19 ป่า ส่วนการลักลอบเผา ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่โดยเร็วและดับให้ได้ภายใน 1 วัน รวมถึงการตั้งรางวัลนำจับผู้กระทำความผิดคดีละ 10,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีการใช้ปฏิบัติการฝนหลวงบินเจาะช่องระบายอากาศเพื่อให้ฝุ่นในพื้นที่พัดขึ้นไปได้

 

 

 

 

 

โดย ผู้จัดการออนไลน์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า