ฝีดาษวานรคร่าอีก 1 ราย ผู้ป่วย 44.18% เป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศและติดเอชไอวี

กรมควบคุมโรคเผยฝีดาษวานรคร่าอีก 1 ราย ผู้ป่วย 44.18% เป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศและติดเอชไอวี ย้ำ งดมีเซ็กส์กับคนแปลกหน้า

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า โรคฝีดาษวานรเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง สามารถติดต่อได้ง่ายเพียงแค่สัมผัสบริเวณตุ่ม หนอง หรือสารคัดหลั่ง ของผู้ติดเชื้อ สถานการณ์โรคฝีดาษวานรในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2566) พบผู้ติดเชื้อรวม 559 ราย เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง ชาวไทย 503 ราย ชาวต่างชาติ 52 ราย ไม่ระบุสัญชาติ 4 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศ 474 ราย และรู้ว่าติดเชื้อ HIV 274 ราย คิดเป็นร้อยละ 44.18 กลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 30-39 ปี (241 ราย) ตามด้วยอายุ 20-29 ปี (172 ราย) ในสัปดาห์นี้พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 24 ราย กรุงเทพมหานคร 9 ราย เชียงใหม่ และ นนทบุรี จังหวัดละ 3 ราย ภูเก็ต 2 ราย นครปฐม ชลบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี สระบุรี อุดรธานีและอุบลราชธานีจังหวัดละ 1 ราย

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว© Matichon

“และสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยเอชไอวีติดฝีดาษวานรเสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 24 ปี เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีและขาดยามา 3 ปี ระดับเม็ดเลือดขาว CD4 เท่ากับ 3 เซลล์ต่อมิลลิลิตร เริ่มป่วยตั้งแต่ 25 สิงหาคม 2566 และไปรับ การรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยอาการไข้ อ่อนเพลีย มีผื่นใบหน้า หลัง มือ บริเวณอวัยวะเพศ และต่อมาวันที่ 12 กันยายน 2566ได้รับการส่งต่อมารักษาที่สถาบันบำราศบำราศนราดูร เนื่องจากมีอาการรุนแรง คือ ผิวหนังตายบริเวณที่จมูก แผ่นหลัง และนิ้วมือ และมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนที่ผิวหนัง ในสภาพที่ผู้ป่วยเอชไอวีรายนี้มีภูมิคุ้มกันบกพร่องพบการแพร่กระจายของเชื้อฝีดาษวานรไปที่ปอดทำให้เกิดปอดอักเสบ มีโรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่เกิดจากเชื้อซีเอ็มวี (Cytomegalovirus; CMV) แม้ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยา tecovirimat นาน 28 วัน ร่วมกับยาต้านไวรัสเอชไอวี และยารักษาโรคติดเชื้ออื่นๆ ที่ตรวจพบ แต่ยังมีการตายของเนื้อเยื่อเป็นบริเวณกว้างขึ้น ต่อมามีภาวะไตวายและระบบการหายใจล้มเหลวจนเสียชีวิตในที่สุด”นพ.ธงชัย กล่าว

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว© Matichon

นอกจากนี้ นพ.ธงชัย กล่าวว่า อาการของโรคฝีดาษวานรที่พบบ่อยได้แก่ มีผื่น มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต และอาการคัน สำหรับการรักษานั้น หากผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง ไม่มีโรคอื่นร่วมด้วย จะรักษาตามอาการ และสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง มีโรคประจำตัวร่วม เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี จะให้ยาต้านไวรัส Tecovirimat (TPOXX) โดยเร็ว ซึ่งผลการรักษาส่วนใหญ่จะอาการดีขึ้น แต่มีบางรายยที่ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรงจะเสียชีวิต โดยกระทรวงสาธารณสุขกระจายยาต้านไวรัสดังกล่าวไปไว้ที่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดที่พบการระบาด

ทั้งนี้ โรคฝีดาษวานร สามารถป้องกันได้ โดยหลีกเลี่ยงการมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้การติดเชื้อโรคฝีดาษวานร และงดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เพื่อป้องกันเองและลดการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น รวมถึงไม่สัมผัสใกล้ชิดแนบเนื้อกับผู้ที่มีผื่น ตุ่มหรือหนอง แนะนำให้ล้างมือบ่อยๆ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น และขอความร่วมมือหน่วยงานสาธารณสุขทุกจังหวัดเฝ้าระวัง และติดตามกลุ่มเสี่ยงพร้อมทั้งสื่อสารให้ความรู้วิธีการป้องกัน หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำในการปฏิบัติตัว สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า